คันตรงอวัยวะเพศชาย เช็กด่วน! สาเหตุเกิดจากอะไร ใช้ยาแก้คันตัวไหน

หากคุณผู้ชายมีอาการคันอวัยวะเพศ บริเวณหัวหน่าว ปลายอวัยวะเพศ หรือรอบ ๆ ถุงอัณฑะ ร่วมกับพบตุ่ม ผื่น [เป็นแผลที่อวัยวะเพศ] (https://www.precisionlife.store/blog/genital-sores-man-woman) ผิวแห้ง ลอกเป็นขุย อย่าปล่อยผ่านเด็ดขาด เพราะน้องชายอาจกำลังส่งสัญญาณความผิดปกติของโรคบางชนิด ซึ่งอาการคันที่อวัยวะเพศ สันนิษฐานได้หลายสาเหตุ เช่น หากเป็นผู้ที่มักเปลี่ยนคู่นอน อาจติดเชื้อจากโรคเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็น หนองในแท้ หนองในเทียม เริม ซิฟิลิส หรือโรคผิวหนังทั่วไป การดูแลสุขอนามัยเพียงอย่างเดียวจึงอาจไม่เพียงพอต่อการรักษา เพราะโรคบางชนิดจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ดังนั้น เพื่อให้หนุ่ม ๆ ได้รู้จักกับสาเหตุของอาการคันจู๋ คันน้องชาย และวิธีรักษา ทั้งยาแก้คัน และการดูแลตนเองเบื้องต้น บทความนี้เราได้หยิบยกทั้งสาเหตุ วิธีรักษาอาการคันอวัยวะเพศชายมาฝากคุณผู้ชายทุก ๆ คนกัน

บทความนี้ได้รับการตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์ โดยพญ.ภัทรพร ตั้งกีรติชัย สูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์

คลิกอ่านหัวข้อที่สนใจ

• สัญญาณอาการคันอวัยวะเพศชาย ที่เรียกว่า “ผิดปกติ”
• วิธีรักษาอวัยวะเพศชายคันเบื้องต้น
• ยาแก้คัน ยาบรรเทาอาการคัน
• กลุ่มชนิดยาแก้คันใช้ภายนอก
• กลุ่มชนิดยาแก้คันใช้ภายใน

สัญญาณอาการคันอวัยวะเพศชาย ที่เรียกว่า “ผิดปกติ”

มีอาการคัน ร่วมกับอวัยวะเพศชายลอก ระคายเคือง รวมถึงที่องคชาต ปลายอวัยวะเพศ และถุงอัณฑะ ร่วมกับมีตุ่มหนอง ผื่นแดง เป็นแผล แสบร้อนบริเวณโดยรอบ อาการเหล่านี้ควรได้รับการคัดกรองโรค เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสมตามสาเหตุที่พบ

มีอาการคันน้องชาย แนะนำทำแบบทดสอบคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพื่อเช็กความเสี่ยงเบื้องต้น พร้อมรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญฟรี!

เช็กก่อนชัวร์กว่า! ต้นเหตุของอาการคันน้องชาย

คันตรงจู๋ เชื่อว่า เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้บ่อย จนบางครั้งหนุ่ม ๆ อาจคิดว่า เป็นอาการปกติทั่วไป ที่อาจเกิดจากการอับชื้น แต่รู้หรือไม่ว่า บางครั้งอาการเหล่านี้ เป็นปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการดูแลรักษาโดยด่วน ซึ่งอาการคันบริเวณอวัยวะเพศมีหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งเกิดจากสาเหตุทั่วไปที่ไม่ร้ายแรง และเกิดจากการติดเชื้อบางชนิด อาทิ

1.ใส่กางเกงในรัดแน่นจนเกินไป

การเลือกกางเกงในให้เหมาะกับสรีระร่างกายของคุณผู้ชาย เป็นสิ่งสำคัญเลยค่ะ เพราะผิวหนังบริเวณน้องชายนั่น มีความบอบบางเป็นทุนเดิม อีกทั้งสามารถเกิดความอับชื้นได้ง่าย โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอาการร้อนอบอ้าวแทบจะทุกฤดู T_T การใส่กางเกงในที่รัดแน่นจนเกินไป จึงมีข้อเสียมากมายเลยล่ะ และหนึ่งในนั่นคือ ปัญหาคันระคายเคืองผิวบริเวณอวัยวะเพศ รวมถึงเกิดผิวถลอก มีรอยแดง เนื่องจากกางเกงในที่รัดแน่นเกินไป ทำให้ผิวหนังกับกางเกงในเสียดสีกัน นอกจากนี้ยังพบปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น การเกิดอาการชาของกล้ามเนื้อ

2.โกนขนบริเวณน้องชาย

นอกจากสาว ๆ แล้ว เชื่อว่า มีหนุ่ม ๆ อีกหลายคนที่ชอบกำจัดขนบริเวณหัวหน่าวโดยการโกน เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด ซึ่งการโกนขนนั่น อาจได้ความสะดวก รวดเร็ว แต่หลังโกน ขนที่เกิดขึ้นใหม่ อาจวกกลับกวนใจทำให้หนุ่ม ๆ รู้สึกคันยุบยิบ จนรู้สึกไม่สบายตัวได้เลย เผลอ ๆ หากไปเกา หรือโกนแรงเกินไปแล้วล่ะก็ อาจเกิดอวัยวะเพศลอก เป็นรอยแดง เป็นแผล จากการระคายเคือง เมื่อไม่ได้รับการดูแลรักษา เกิดการติดเชื้อจนอักเสบได้เลย ดังนั้น แนะนำว่า อาจเปลี่ยนเป็นการเล็มขนแทนการโกนหรือถอน เพื่อลดโอกาสเกิดอาการคัน และบาดเจ็บจากการโดยใบมีดโกนบาด หรือโดยเล็บข่วนจากการเกา

3.แพ้สารเคมีจากผลิตภัณฑ์บางชนิด

อวัยวะเพศชายคัน บางครั้งอาจเกิดจากผื่นระคายเคือง (Contact dermatitis) หรือตุ่มเล็ก ๆ ที่ขึ้นรอบ ๆ อวัยวะเพศ หรือผิวบริเวณอวัยวะเพศแห้ง ลอก ที่เกิดจากการแพ้สารเคมีบางชนิดในครีมอาบน้ำ สบู่ และน้ำยาซักผ้า หรือแม้กระทั่งถุงยางอนามัย โดยหากเกิดจากสาเหตุนี้ เมื่อหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง อาการแพ้อาจค่อย ๆ ดีขึ้น แต่หากอาการไม่ทุเลาลง แนะนำ ปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจคัดกรองโรค เนื่องจากอาการตุ่ม คัน เกิดจากการติดเชื้อของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เริม ซิฟิลิส ได้เช่นกัน

4.ใช้น้ำอุ่น น้ำร้อนทำความสะอาด

บางครั้งอาการคันที่อวัยวะเพศ อาจเกิดจากการใช้น้ำอุ่นหรือร้อนจนเกินไป ทำความสะอาดน้องชาย หรือการแช่น้ำอุ่นเป็นเวลานาน ๆ ก็ทำให้ผิวบริเวณอวัยวะเพศระคายเคือง จนแห้ง ลอกเป็นขุยได้เช่นกัน

5.ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ

อาการตุ่มคัน บวมแดง แสบร้อน และผิวหนังลอกเป็นขุยตรงบริเวณอวัยวะเพศชาย บางครั้งอาจมาจากปัจจัยของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานผิดปกติ จึงทำให้ร่างกายทำลายเนื้อเยื่อเซลล์ที่ดี ซึ่งบางคนอาจเกิดเป็นโรคสะเก็ดเงินโดยไม่รู้ตัว แนะนำว่า ควรเลี่ยงการเเคะ แกะ เกา เพื่อป้องกันการเกิดแผล และเกิดการติดเชื้อจนลุกลาม และควรดูแลสุขภาพโดยการพักผ่อนให้เพียงพอ

6.เชื้อราที่อวัยวะเพศชาย

โดยส่วนใหญ่แล้ว มักพบการติดเชื้อราในช่องคลอด แต่หนุ่ม ๆ ก็ไม่ควรชะล่าใจไป เพราะคุณผู้ชายมีโอกาสติดเชื้อราได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเชื้อราแคนดิดา (Candida albicans) ซึ่งอาจเกิดจากการทำความสะอาดน้องชายไม่ดี จนเกิดสิ่งหมักหมมตกค้าง หรือเกิดจากการร่วมรักกับผู้ที่มีเชื้อ แต่ถึงอย่างไรควรตะหนักว่า เชื้อราสามารถเกิดขึ้นได้เอง ซึ่งไม่ใช่กลุ่มโรคติดต่อเสมอไป แม้ไม่ได้มีการร่วมรัก หรือร่วมรักโดยป้องกันดีแล้วก็ตาม ควรดูแลสุขอนามัยสม่ำเสมอ

อาการที่มักพบในชายที่เป็นโรคติดเชื้อแคนดิดา ที่สังเกตได้คือ

• คันบริเวณปลายอวัยวะเพศ และหนังหุ้มปลาย
• มีเปียกแป้งอยู่รอบๆ ใต้หนังหุ้มปลาย
• มีผื่นลักษณะสีขาว หรือตุ่มหนองบริเวณปลายอวัยวะเพศ
• หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศแสบร้อน เป็นสีแดง
• น้องชายมีกลิ่นเหม็น

7.ปลายอวัยวะเพศอักเสบ

หากหนุ่ม ๆ มีอาการเจ็บ บวม แดงบริเวณน้องชาย แต่ไม่ดูแลรักษา อาจส่งผลให้เกิดปลายองคชาตอักเสบ จึงรู้สึกคันตรงอวัยวะเพศ บางรายอาจมีอาการปัสสาวะแสบขัดร่วมด้วย ทั้งนี้หากมีอาการหนังหุ้มปลายบวมแดง คัน เป็นแผล อาจเกิดจากสาเหตุอื่นได้เช่นกัน ฉะนั้นรีบปรึกษาหมอให้ไวดีกว่าแก้ยาก เสียมาก

8.โรคโลน

โรคโลน หรือตัวโลน เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ของอาการคันบริเวณหัวหน่าว ซึ่งบางคนอาจไม่ทันสังเกต เพราะตัวโลนเป็นแมลงตัวเล็ก ๆ อยู่บริเวณขนบนหัวหน่าว ซึ่งตัวโลนนี้สามารถติดต่อกันได้จากบุคคลหนึ่งไปสู่บุคคลหนึ่งผ่านการมีเพศสัมพันธ์

9.โรคเริม

หากคุณมีตุ่มน้ำใสรอบ ๆ อวัยวะเพศ หรือขาหนีบ ร่วมกับอาการเจ็บ คันบริเวณจู๋ หลังจากรับความเสี่ยงติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ เช่น ในช่วงที่ผ่านมาไม่นานเปลี่ยนคู่นอนบ่อย หรือพบคู่นอน หรือแฟนมีอาการเช่นเดียวกัน นี่อาจเป็นสัญญาณการติดเชื้อของโรคเริม (Herpes simplex) แนะนำก่อนเชื้อลุกลาม เกิดภาวะแทรซ้อนอื่น ๆ ตามมา ปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการตรวจคัดกรองหาเชื้อเริม และรักษาโดยเร็ว

10.หูดหงอนไก่

วันดีคืนดี หากคุณผู้ชายมีอาการคัน บวมรอบ ๆ องคชาต รูทวารหนัก และพบติ่งเนื้อคล้ายสีชมพู อาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV ชนิดที่ทำให้เกิดโรคหูดหงอนไก่

11.หนองใน

เนื่องจากหนองใน เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย จึงอาจเป็นสาเหตุของอาการคันตรงอวัยวะเพศ หรือรอบ ๆ ซึ่งอาการระคายเคือง คัน เกิดได้ทั้งจากเชื้อแบคทีเรียไนซีเรีย โกโนเรีย (Neisseria gonorrhoeae) เชื้อที่ทำให้เกิดโรคหนองในแท้ และแบคทีเรียคลาไมเดีย ทราโคมาทิส (Chlamydia trachomatis) หรือเชื้ออื่น ๆ ที่ก่อโรคหนองในเทียม ดังนั้น หากผู้ป่วยมีอาการหนองไหลซึมสีขุ่นหรือใสออกจากปลายท่ออวัยวะเพศ ปัสสาวะแสบขัดร่วมด้วย ควรสงสัยอาการหนองในเทียม หรืออาการหนองในแท้ผู้ชาย แนะนำ รีบตรวจคัดกรองหาเชื้อต้นเหตุกับผู้เชี่ยวชาญอย่างเร็วที่สุด เพื่อแพทย์จะได้ใช้วิธีรักษาหนองในเทียม หรือหนองในแท้ อย่างเหมาะสม ลดโอกาสรักษาไม่ตรงกับโรคที่เป็น และการติดเชื้อโรคเพศสัมพันธ์อื่น ๆ หรือเชื้อ HIV

สงสัย กังวลเข้าข่ายติดเชื้อจากโรคหนองใน เริม หูด เชื้อรา หรืออื่น ๆ ทำแบบคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ง่าย ๆ เพียงเลือกข้อที่ตรงกับคุณมากที่สุด เพื่อประเมินความเสี่ยงเบื้องต้น หรือ ปรึกษาอาการกับแพทย์ โดยตรง ที่ LINE ID @PrecisionSTD

วิธีลดอาการอวัยวะเพศชายคันเบื้องต้นด้วยตนเอง

หากมีอาการคันหัวหน่าว คันปลายอวัยวะเพศ หรือบริเวณโดยรอบ คุณผู้ชายไม่ควรปล่อยผ่าน ยิ่งมีผื่น ตุ่ม แผลร่วมด้วย ยิ่งต้องรีบพบแพทย์เพื่อรักษา หากยังไม่สะดวกพบแพทย์โดยเร็ว ควรที่จะหาวิธีบรรเทาอาการคันเบื้องต้นด้วยตนเอง ซึ่งเรามีวิธีลดอาการอวัยวะเพศชายคันมาแนะนำดังนี้เลยค่ะ

• ทำความสะอาดร่างกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศ
• หลังปัสสาวะหรือทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ ควรเช็ดทำความสะอาดน้องชายให้แห้ง
• ควรใส่เสื้อผ้าหรือกางเกงในที่สบายผิว ไม่รัดแน่นจนเกินไป
• หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ จนกว่าอาการคันจะหายไป หรือดีที่สุด รอจนกว่าจะได้รับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
• ไม่ควรแคะ แกะ เกา เพื่อลดโอกาสเกิดบาดแผลบริเวณอวัยวะเพศ และเกิดการติดเชื้อซ้ำซ้อนจากเชื้อโรค
• ใช้สบู่ ผงซักฟอกที่อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว

หากยังคันน้องชาย คันจู๋ หรือบริเวณขาหนีบ หนุ่ม ๆ อาจบรรเทาอาการคันด้วยการปรับพฤติกรรมตามคำแนะนำข้างต้น ร่วมกับใช้ยากินหรือยาทาแก้คัน

ยาแก้คัน ยาบรรเทาอาการคัน

เนื่องจากยาแก้คันมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งยากิน ยาทา หนุ่ม ๆ อาจเลือกไม่ถูกว่า ควรเลือกใช้ยาบรรเทาอาการคันตัวไหนดี ซึ่งเราได้นำข้อมูลยาแก้คัน ที่ทางคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลได้แนะนำไว้ มาฝากทุกคนกันดังนี้ค่ะ

กลุ่มชนิดยาแก้คันใช้ภายนอก

• ผลิตภัณฑ์ทาผิว ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น (emollients หรือ moisturizing preparations) ช่วยลดการระคายเคืองผิว
• ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเมนทอล (menthol) 1-3% และการบูร (camphor) 0.5% ช่วยทำให้ผิวเย็น และลดอาการคันจากแมลงกัดต่อย
• ไดเฟนไฮดรามีน (diphenhydramine) 0.5-2% ช่วยลดอาการคันจากแมลงกัดต่อย และสิ่งที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว
• ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (topical corticosteroids) ช่วยบรรรเทาอาการคันจากโรคผิวหนังที่เกิดจากอักเสบ
• ทาโครลิมัส (tacrolimus) 0.03-0.1% , พิเมโครลิมัส (pimecrolimus) 1% ช่วยแก้คันจากโรคผื่นภูมิแพ้ หนือโรคตุ่มคันเรื้อรัง
• ลิโดเคน (lidocaine) 2.5-5%, พราโมเคน (pramocaine) 1% ช่วยบรรเทาอาการคันเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ
• ด็อกเซพิน (doxepin) 5% ช่วยบรรเทาอาการคันจากโรคผื่นภูมิแพ้ หรือโรคผิวหนังที่มีการอักเสบได้
• แคปไซซิน (capsaicin) 0.025-1% ช่วยแก้คันจากการบาดเจ็บของประสาท หรือโรคไตเรื้อรัง

กลุ่มชนิดยาบรรเทาอาการคันใช้ภายใน

• ยาต้านฮีสตามีน (antihistamines) บรรเทาอาการคันจากแมลงกัดต่อย ลมพิษ
• ยากดภูมิคุ้มกัน (immunosuppressive drugs) ช่วยแก้คันจากลมพิษเฉียบพลัน โรคผิวหนังอักเสบ
• ยาต้านซึมเศร้า (antidepressants) แก้คันจากสาเหตุการบาดเจ็บของประสาท ลมพิษเรื้อรัง
• ยาต้านชัก (anticonvulsants) ใช้ลดคันกรณีที่เกิดจากโรคตุ่มคันเรื้อรัง คันเรื้อรังไม่ทราบสาเหตุแต่ไม่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน
• ยาต้านโอปิออยด์ (opioid antagonists) ช่วยลดอาการคันจากน้ำดีคั่ง คันจากสาเหตุต่าง ๆ ชนิดที่ดื้อต่อการรักษา
• โคเลสไทรามีน (cholestyramine) และไรแฟมพิน (rifampin) ลดอาการคันจากน้ำดีคั่ง

หากมีอาการคันหัวหน่าว คันปลายอวัยวะเพศ หรือบริเวณโดยรอบ ต้องการใช้ยารักษาดังที่กล่าวมา เพื่อลดอาการคันอวัยวะเพศ แนะนำว่า ไม่ควรซื้อใช้เอง แต่ควรปรึกษาเภสัชกร หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถึงการใช้ยา เนื่องจากยาแต่ละชนิด ใช้บรรเทาอาการคันจากสาเหตุที่ต่างกัน และมีผลข้างเคียง ผู้ป่วยจึงจำเป็นต้องได้รับคำแนะนำถึงการใช้ยาที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญ และที่สำคัญควรมีการคัดกรองก่อน เพื่อการรักษาที่ตรงจุด

แบบทดสอบคัดกรองโรคติดต่อ ประเมินความเสี่ยงด้วยตนเอง พร้อมรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

อยากรักษาอาการคันให้หาย อย่าชะล่าใจเด็ดขาด

มีอาการคันเพียงเล็กน้อย หรืออาการรุนแรง คุณผู้ชายไม่ควรปล่อยผ่าน เพราะหากไม่ได้รับการตรวจ เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า อาการคันมาจากสาเหตุอะไร หากมาจากสาเหตุที่ไม่ร้ายแรง อาจหายได้เองโดยที่ไม่ต้องรักษา แต่ถ้ามาจากสาเหตุของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน เริม และหูด โรคเหล่านี้ ไม่สามารถหายเองได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาการอาจดีขึ้นเอง แต่ก็อาจจะกลับมาเป็นซ้ำ ๆ

ถึงอย่างไรก็ตาม ไม่ว่า จะคันที่อวัยวะเพศด้วยสาเหตุใด หากยังไม่สะดวกพบแพทย์โดยเร็ว ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อลดอาการคันเบื้องต้น แต่แนะนำว่า ปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจคัดกรองโรค และรับคำนะนำถึงการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดีกว่านะคะ

สนใจคัดกรองโรคทางเพศสัมพันธ์ หรือปรึกษาอาการคันที่อวัยวะเพศกับแพทย์ฟรีเบื้องต้น ADD LINE @PrecisionSTD หรือโทรสอบถามโดยตรงได้ที่เบอร์ 098-269-2368

บทความอื่นที่แนะนำ

• อย่าเมินจู๋ จิ๋ม พบตุ่ม คัน กลิ่นเหม็น รีบเช็ก ใช่อาการหนองในหรือไม่
• โรคหนองในคืออะไร มีสาเหตุ และอาการอย่างไร เป็นแล้วต้องรักษาแบบไหน
• Top 5 สาเหตุ เสี่ยงติดโรคหนองใน ตรวจ STD ด่วน
• ตรวจหนองในเองที่บ้าน ด้วยปัสสาวะ แม่นยำด้วยเทคนิค MULTIPLEX PCR
• ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับโรคหนองใน ที่คุณรู้แล้วอาจถึงบางอ้อ
• จริงหรือมั่ว? ติดหนองใน กลายเป็นเอดส์ได้
• ซื้อยารักษาหนองในกินมั่ว ไม่จบ เชื้อลุกลาม ค่ารักษาบานปลาย​​​​‌‍​‍​‍‌‍‌​‍‌‍‍‌‌‍‌‌‍‍‌‌‍‍​‍​‍​‍‍​‍​‍‌​‌‍​‌‌‍‍‌‍‍‌‌‌​‌‍‌​‍‍‌‍‍‌‌‍​‍​‍​‍​​‍​‍‌‍‍​‌​‍‌‍‌‌‌‍‌‍​‍​‍​‍‍​‍​‍​‍‌​‌‌​‌‌‌‌‍‌​‌‍‍‌‌‍​‍‌‍‍‌‌‍‍‌‌​‌‍‌‌‌‍‍‌‌​​‍‌‍‌‌‌‍‌​‌‍‍‌‌‌​​‍‌‍‌‌‍‌‍‌​‌‍‌‌​‌‌​​‌​‍‌‍‌‌‌​‌‍‌‌‌‍‍‌‌​‌‍​‌‌‌​‌‍‍‌‌‍‌‍‍​‍‌‍‍‌‌‍‌​​‌​‌‌‍​​‌​‌‍​‍​‌‍​‌‌‍‌‍​​‌​‍‌​‌‌‍‌​​​‍​‍‌​‍‌​‌​‌‍‌‌​‌‌​‍‌​‍‌‌‍​‍​​‍​‌​‌‍‌​​‍‌​​​‌‍‌‍‌‍‌​​‍​​‍​​‌‌‍​‍‌‍​​​​‌‍‌​​​‌​​​​‍‌‌​‌‍‌‌​​‌‍‌‌​‌‌​​‌‍‌​‌‌​​‍‌​​‌‍​‌‌‌​‌‍‍​​‌‌‍​‌‍‌‍‍‌‌​‌‍‌‌‌‍‍‌‌​​‌‍​‍‌‍​‌‌​‌‍‌‌‌‌‌‌‌​‍‌‍​​‌​‍‌‌​​‍‌​‌‍‌​‌‌​‌‌‌‌‍‌​‌‍‍‌‌‍​‍‌‍‌‍‍‌‌‍‌​​‌​‌‌‍​​‌​‌‍​‍​‌‍​‌‌‍‌‍​​‌​‍‌​‌‌‍‌​​​‍​‍‌​‍‌​‌​‌‍‌‌​‌‌​‍‌​‍‌‌‍​‍​​‍​‌​‌‍‌​​‍‌​​​‌‍‌‍‌‍‌​​‍​​‍​​‌‌‍​‍‌‍​​​​‌‍‌​​​‌​​​​‍‌‍‌‌​‌‍‌‌​​‌‍‌‌​‌‌​​‌‍‌​‌‌​​‍‌‍‌​​‌‍​‌‌‌​‌‍‍​​‌‌‍​‌‍‌‍‍‌‌​‌‍‌‌‌‍‍‌‌​​‍​‍‌‌